แนะนำครีมคนท้อง 10 อันดับ ปี 2025 ใช้ได้ ปลอดภัย ที่หาซื้อได้ง่าย

แนะนำครีมคนท้อง 10 อันดับ ปี 2025

การตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายของคุณแม่เปลี่ยนแปลงอย่างมาก ทั้งผิวที่ตึง คัน และโอกาสเกิดรอยแตกลาย การเลือก ครีมคนท้อง หรือ ครีมที่คนท้องใช้ได้ จึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อบำรุงผิวให้แข็งแรงและลดปัญหาที่ตามมา บทความนี้ได้รวบรวม 10 ครีมยอดนิยมแห่งปี 2025 ที่ผ่านการยอมรับทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยเน้นความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และความคุ้มค่า พร้อมคำแนะนำช่วงเวลาที่เหมาะสมในการใช้ เพื่อให้คุณแม่มั่นใจและเลือกได้ตรงกับความต้องการ

1. Mustela Maternité Stretch Marks Cream

Mustela Maternité Stretch Marks Cream

Mustela เป็นแบรนด์จากฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงด้านผลิตภัณฑ์แม่และเด็กมายาวนาน สูตรนี้ได้รับความนิยมในปี 2025 เพราะเน้นความปลอดภัยสูงและการป้องกันรอยแตกลายตั้งแต่ระยะแรกของการตั้งครรภ์

  • ส่วนผสมเด่น: อะโวคาโด เปปไทด์, มาราคูจาออยล์, เชียบัตเตอร์
  • กลิ่น: มีทั้งสูตรหอมอ่อนและสูตรไร้กลิ่น
  • เนื้อสัมผัส: ครีมบางเบา ซึมไว
  • ข้อดี: สูตรเฉพาะคนท้อง ปลอดภัย ได้รับการยอมรับในคลินิกและโรงพยาบาล
  • ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าโลชั่นทั่วไป ต้องใช้ต่อเนื่อง
  • ราคา: ประมาณ 785 บาท / 150 ml
  • เหมาะกับ: คุณแม่ที่ผิวตึงคันง่าย ต้องการป้องกันรอยตั้งแต่ไตรมาสแรก
  • ช่วงเวลาที่แนะนำ: เริ่มใช้ได้ตั้งแต่เดือนแรกของการตั้งครรภ์ ใช้ต่อเนื่องจนหลังคลอด
  • เวลาที่ควรทา: เช้าและก่อนนอน หลังอาบน้ำ
  • Mustela Maternité Stretch Marks Cream หาซื้อได้ที่ : Watsons, Central Online, Lazada, Shopee

สรุปครีม Mustela Maternité Stretch Marks Cream เหมาะกับคุณแม่ที่ต้องการครีมปลอดภัย มาตรฐานสูง ใช้ได้ตั้งแต่ตั้งครรภ์ช่วงแรกจนถึงหลังคลอด คุ้มค่าสำหรับการลงทุนเพื่อป้องกันรอยแตกลาย

2. Palmer’s Cocoa Butter Massage Lotion for Stretch Marks

Palmer’s Cocoa Butter Massage Lotion for Stretch Marks

Palmer’s คือโลชั่นโกโก้บัตเตอร์ในตำนานที่คุณแม่หลายรุ่นไว้วางใจ ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายและคุณภาพที่พิสูจน์ได้ ทำให้ยังคงเป็นหนึ่งในครีมคนท้องยอดนิยมในปี 2025

  • ส่วนผสมเด่น: โกโก้บัตเตอร์, เชียบัตเตอร์, วิตามินอี, คอลลาเจน, อีลาสติน
  • กลิ่น: โกโก้หอมหวาน
  • เนื้อสัมผัส: โลชั่นลื่น ซึมง่าย
  • ข้อดี: คุ้มราคา หาซื้อง่าย ผิวนุ่มชุ่มชื้นยาวนาน
  • ข้อเสีย: กลิ่นโกโก้อาจแรงเกินไปสำหรับบางคน
  • ราคา: 300–500 บาท / 250 ml
  • เหมาะกับ: คุณแม่ผิวแห้งมาก ต้องการความชุ่มชื้นตลอดวัน
  • ช่วงเวลาที่แนะนำ: เหมาะกับไตรมาส 2–3 และต่อเนื่องหลังคลอด
  • เวลาที่ควรทา: หลังอาบน้ำ เช้าและเย็น
  • Palmer’s Cocoa Butter Massage Lotion for Stretch Marks หาซื้อได้ที่ : Boots, Watsons, Tops, Lazada, Shopee

สรุปครีม Palmer’s Cocoa Butter เหมาะกับคุณแม่ที่มองหาครีมคุ้มค่า หาซื้อง่าย ใช้ต่อเนื่องแล้วผิวนุ่มชุ่มชื้น แม้กลิ่นโกโก้จะเข้มข้น แต่ยังคงเป็นที่นิยมและเชื่อถือได้

3. Burt’s Bees Mama Belly Butter

Burt’s Bees Mama Belly Butter

Burt’s Bees เป็นแบรนด์จากสหรัฐอเมริกาที่เน้นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ รุ่นนี้เป็นบัตเตอร์เข้มข้นที่คุณแม่ผิวแพ้ง่ายนิยมใช้ เพราะไม่มีน้ำหอมและอ่อนโยนต่อผิว

  • ส่วนผสมเด่น: เชียบัตเตอร์, โกโก้บัตเตอร์, โจโจบาออยล์
  • กลิ่น: ไร้กลิ่น
  • เนื้อสัมผัส: เข้มข้นแบบบัตเตอร์
  • ข้อดี: อ่อนโยน ปลอดภัย 99% จากธรรมชาติ
  • ข้อเสีย: หาซื้อยากในไทย ต้องสั่งออนไลน์
  • ราคา: ประมาณ 610 บาท
  • เหมาะกับ: คุณแม่ที่แพ้ง่ายหรือไม่ชอบกลิ่นน้ำหอม
  • ช่วงเวลาที่แนะนำ: เหมาะตั้งแต่ไตรมาสแรกจนหลังคลอด
  • เวลาที่ควรทา: ก่อนนอนเป็นหลักเพื่อบำรุงเข้มข้น
  • Burt’s Bees Mama Belly Butter หาซื้อได้ที่ : iHerb, Lazada, Shopee, ตัวแทนนำเข้าออนไลน์

สรุปครีม Burt’s Bees Mama Belly Butter เหมาะกับคุณแม่ที่ต้องการผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก ปลอดภัยสูง แม้หาซื้อยาก แต่ตอบโจทย์คนที่ใส่ใจสุขภาพผิวและส่วนผสมธรรมชาติ

4. Mederma Stretch Marks Therapy

Mederma Stretch Marks Therapy

 

Mederma เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านการดูแลรอยแตกลายโดยเฉพาะ รุ่น Stretch Marks Therapy จึงได้รับความนิยมสูงในหมู่คุณแม่ที่กังวลรอยแตกลายทั้งระหว่างตั้งครรภ์และหลังคลอด

  • ส่วนผสมเด่น: ไฮยาลูรอนิก, เซนเทลล่า, สารสกัดพืช
  • กลิ่น: อ่อนมาก
  • เนื้อสัมผัส: ครีมเนียน ซึมไว
  • ข้อดี: มีงานวิจัยรองรับ ใช้แล้วผิวยืดหยุ่นดีขึ้น ลดรอยใหม่ได้ดี
  • ข้อเสีย: ต้องใช้นานหลายสัปดาห์จึงเห็นผลชัดเจน
  • ราคา: ประมาณ 1,200 บาท
  • เหมาะกับ: คุณแม่ที่มีรอยแตกลายใหม่หรือผิวแห้งตึงมาก
  • ช่วงเวลาที่แนะนำ: เริ่มใช้ได้ตั้งแต่ไตรมาส 2 จนถึงหลังคลอด
  • เวลาที่ควรทา: เช้าและก่อนนอน
  • Mederma Stretch Marks Therapy หาซื้อได้ที่ : Boots, Watsons, Lazada, Shopee

สรุปครีม Mederma Stretch Marks Therapy เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ต้องการครีมลดรอยแตกลายโดยเฉพาะ แม้ต้องใช้ต่อเนื่องนาน แต่เป็นแบรนด์ที่มีข้อมูลวิจัยรองรับและเชื่อถือได้

5. Mama Mio Tummy Rub Butter

Mama Mio Tummy Rub Butter

Mama Mio เป็นแบรนด์พรีเมียมจากอังกฤษที่พัฒนาสูตรเฉพาะสำหรับคนท้อง รุ่น Tummy Rub Butter ได้รับความนิยมเพราะให้ความรู้สึกหรูหราและมีส่วนผสมจากน้ำมันธรรมชาติที่บำรุงลึก

  • ส่วนผสมเด่น: Shea Butter, Argan Oil, Avocado Oil
  • กลิ่น: หอมอ่อนแนวสมุนไพร
  • เนื้อสัมผัส: เข้มข้นแบบบัตเตอร์
  • ข้อดี: ช่วยผ่อนคลายเหมือนได้สปา บำรุงเข้มข้น
  • ข้อเสีย: ราคาสูงเมื่อเทียบกับแบรนด์ทั่วไป
  • ราคา: ประมาณ 1,100 บาท
  • เหมาะกับ: คุณแม่ที่ต้องการครีมระดับพรีเมียมเพื่อการบำรุงผิว
  • ช่วงเวลาที่แนะนำ: เหมาะกับไตรมาส 2–3 และใช้ต่อเนื่องหลังคลอด
  • เวลาที่ควรทา: ก่อนนอน เพื่อให้บำรุงลึกและผ่อนคลาย
  • Mama Mio Tummy Rub Butter หาซื้อได้ที่ : Sephora, Central Online, Lazada

สรุปครีม Mama Mio Tummy Rub Butter เหมาะกับคุณแม่ที่มองหาความหรูหราและผลลัพธ์ที่จับต้องได้ แม้ราคาจะสูง แต่ถือว่าคุ้มสำหรับการดูแลผิวช่วงตั้งครรภ์

6. Weleda Stretch Mark Body Butter

Weleda Stretch Mark Body Butter

Weleda เป็นแบรนด์จากยุโรปที่มีชื่อเสียงด้านผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก รุ่น Stretch Mark Body Butter จึงตอบโจทย์คุณแม่ที่ใส่ใจธรรมชาติและสุขภาพผิว

  • ส่วนผสมเด่น: เชียบัตเตอร์, โกโก้บัตเตอร์, อัลมอนด์ออยล์
  • กลิ่น: หอมอ่อนธรรมชาติ
  • เนื้อสัมผัส: เข้มข้นแบบบัตเตอร์
  • ข้อดี: ส่วนผสม organic ปลอดภัยและอ่อนโยน
  • ข้อเสีย: ราคาสูงเนื่องจากเป็นสินค้านำเข้า
  • ราคา: 1,200–1,700 บาท
  • เหมาะกับ: คุณแม่ที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์สายกรีน
  • ช่วงเวลาที่แนะนำ: ใช้ได้ทุกไตรมาสและหลังคลอด
  • เวลาที่ควรทา: เช้าและก่อนนอน หลังอาบน้ำ
  • Weleda Stretch Mark Body Butter หาซื้อได้ที่ : iHerb, Lazada, Shopee

สรุปครีม Weleda Stretch Mark Body Butter เหมาะกับคุณแม่ที่ต้องการครีมออร์แกนิกแท้ ปลอดภัยสูง แม้ราคาค่อนข้างสูง แต่เป็นตัวเลือกที่มั่นใจได้ในคุณภาพ

7. CeraVe Moisturizing Cream

CeraVe Moisturizing Cream

CeraVe เป็นครีมเวชสำอางที่พัฒนาร่วมกับแพทย์ผิวหนัง จุดเด่นคือการฟื้นฟูเกราะป้องกันผิวและเพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ผิวแห้งหรือแพ้ง่าย

  • ส่วนผสมเด่น: เซราไมด์, ไฮยาลูรอนิก, วิตามินบี5
  • กลิ่น: ไร้กลิ่น
  • เนื้อสัมผัส: ครีมเข้มข้น
  • ข้อดี: ปลอดภัย ไม่ก่อสิว ใช้ได้กับผิวแพ้ง่าย
  • ข้อเสีย: เนื้อค่อนข้างหนา อาจไม่เหมาะกับอากาศร้อน
  • ราคา: ประมาณ 600 บาท
  • เหมาะกับ: คุณแม่ที่มีผิวแห้งหรือแพ้ง่าย ต้องการครีมเวชสำอางที่เชื่อถือได้
  • ช่วงเวลาที่แนะนำ: ใช้ได้ทุกช่วงการตั้งครรภ์และหลังคลอด
  • เวลาที่ควรทา: หลังอาบน้ำ เช้าและเย็น
  • CeraVe Moisturizing Cream หาซื้อได้ที่ : Watsons, Boots, Lazada, Shopee

สรุปครีม CeraVe Moisturizing Cream เหมาะกับคุณแม่ที่ต้องการครีมเวชสำอางที่ปลอดภัยและฟื้นฟูผิวได้จริง ใช้ได้ยาวนานทั้งก่อนและหลังคลอด

8. La Roche-Posay Anthelios Mineral SPF

La Roche-Posay Anthelios Mineral SPF

La Roche-Posay เป็นแบรนด์เวชสำอางจากฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงด้านความอ่อนโยน รุ่น Anthelios Mineral SPF เป็นกันแดดที่ออกแบบมาเพื่อคนท้องและผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ

  • ส่วนผสมเด่น: Zinc Oxide, Titanium Dioxide
  • กลิ่น: ไร้กลิ่น
  • เนื้อสัมผัส: ครีมเจลบางเบา
  • ข้อดี: ปลอดภัย ป้องกันรังสี UVA/UVB ได้ดี
  • ข้อเสีย: ราคาสูงกว่ากันแดดทั่วไป
  • ราคา: ประมาณ 800 บาท
  • เหมาะกับ: คุณแม่ที่ต้องออกแดดบ่อยหรือทำงานกลางแจ้ง
  • ช่วงเวลาที่แนะนำ: ใช้ได้ทุกไตรมาสและหลังคลอด
  • เวลาที่ควรทา: ทุกเช้าก่อนออกแดด และทาซ้ำทุก 2–3 ชั่วโมงเมื่ออยู่กลางแจ้ง
  • La Roche-Posay Anthelios Mineral SPF หาซื้อได้ที่ : Watsons, Boots, Central Online, Lazada

สรุปครีม La Roche-Posay Anthelios Mineral SPF เป็นกันแดดที่ปลอดภัยสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เหมาะสำหรับการใช้งานทุกวันและป้องกันผิวจากแดดแรง

9. Hada Labo Hydrating Lotion

Hada Labo Hydrating Lotion

Hada Labo เป็นโลชั่นน้ำตบจากญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมสูง ช่วยเติมน้ำให้ผิวและซึมซาบไว เหมาะกับคุณแม่ที่ไม่ต้องการครีมหนัก

  • ส่วนผสมเด่น: ไฮยาลูรอนิกหลายโมเลกุล
  • กลิ่น: ไร้กลิ่น
  • เนื้อสัมผัส: น้ำตบใส
  • ข้อดี: ซึมไว ใช้ซ้อนเลเยอร์กับครีมอื่นได้
  • ข้อเสีย: ไม่ได้ช่วยลดรอยแตกลายโดยตรง
  • ราคา: ประมาณ 350 บาท
  • เหมาะกับ: คุณแม่ผิวมันหรือผิวผสมที่อยากได้ความชุ่มชื้น
  • ช่วงเวลาที่แนะนำ: ใช้ได้ทุกไตรมาสและหลังคลอด
  • เวลาที่ควรทา: เช้าและเย็น ก่อนลงครีมหรือบัตเตอร์
  • Hada Labo Hydrating Lotion หาซื้อได้ที่ : Watsons, Tops, Big C, Lazada, Shopee

สรุปครีม Hada Labo Hydrating Lotion เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ชอบเนื้อสัมผัสเบาสบาย เติมน้ำให้ผิวโดยไม่รู้สึกเหนอะหนะ ใช้ได้ยาวนานแม้หลังคลอด

10. Eucerin pH5 Light Gel-Cream

Eucerin pH5 Light Gel-Cream

Eucerin เป็นแบรนด์เวชสำอางจากเยอรมนีที่มีชื่อเสียงด้านความอ่อนโยน รุ่น pH5 Light Gel-Cream ออกแบบมาเพื่อผิวบอบบางและสภาพอากาศร้อนโดยเฉพาะ

  • ส่วนผสมเด่น: เดกซ์แพนทีนอล, pH Balance
  • กลิ่น: หอมอ่อนมาก
  • เนื้อสัมผัส: เจลครีมบางเบา
  • ข้อดี: ซึมไว ไม่เหนอะหนะ ใช้สบายในอากาศร้อน
  • ข้อเสีย: ไม่ได้ลดรอยแตกลายโดยตรง
  • ราคา: ประมาณ 837 บาท / 350 ml
  • เหมาะกับ: คุณแม่ที่ไม่ชอบครีมหนักและอยากได้ความเบาสบาย
  • ช่วงเวลาที่แนะนำ: ใช้ได้ทุกไตรมาสและหลังคลอด
  • เวลาที่ควรทา: หลังอาบน้ำ เช้าและเย็น
  • Eucerin pH5 Light Gel-Cream หาซื้อได้ที่ : Boots, Watsons, Central Online, Lazada, Shopee

สรุปครีม Eucerin pH5 Light Gel-Cream เหมาะกับคุณแม่ที่ชอบครีมเบาสบาย ไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะกับสภาพอากาศของไทยและใช้ได้ต่อเนื่องหลังคลอด

วิธีเลือกครีมคนท้องให้เหมาะกับสภาพผิว

วิธีเลือกครีมคนท้องตามสภาพผิว

คุณแม่แต่ละคนมีสภาพผิวที่แตกต่างกัน การเลือกครีมคนท้องให้เหมาะสมจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ชัดเจนและลดความเสี่ยงจากการระคายเคือง

  • ผิวแห้งมาก: เลือกครีมบัตเตอร์เข้มข้น เช่น Palmer’s, Burt’s Bees, Mama Mio
  • ผิวมันหรือผิวผสม: ใช้โลชั่นเนื้อเบาอย่าง Hada Labo Hydrating Lotion หรือ Eucerin Light Gel-Cream
  • ผิวแพ้ง่าย: เลือกสูตรอ่อนโยน ไร้น้ำหอม เช่น CeraVe, Mustela สูตร fragrance-free
  • ต้องออกแดดบ่อย: ใช้กันแดดแร่ เช่น La Roche-Posay Anthelios Mineral SPF

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการใช้ครีมคนท้อง

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการใช้ครีมคนท้อง

การทาครีมอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่เหมาะสมจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด

  • ไตรมาส 1 (1–3 เดือน): เริ่มบำรุงตั้งแต่แรกเพื่อเตรียมผิวและลดความเสี่ยงของรอยแตกลายในอนาคต
  • ไตรมาส 2–3 (4–9 เดือน): เน้นครีมเข้มข้นที่ลดอาการคันและเพิ่มความยืดหยุ่น เพราะท้องจะเริ่มโตเร็ว
  • หลังคลอด: ใช้ต่อเนื่องเพื่อฟื้นฟูเกราะผิว ลดรอยแตกลาย และปรับสภาพผิวให้กลับมาแข็งแรง

ควรทาครีมวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน หลังอาบน้ำ เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นได้ยาวนาน

ข้อควรหลีกเลี่ยงของครีมคนท้อง

แม้ครีมหลายตัวจะระบุว่าปลอดภัย แต่คุณแม่ควรตรวจสอบส่วนผสมทุกครั้ง โดยเลี่ยงสารดังนี้

  • Retinoids (Vitamin A derivatives) – มีผลต่อการพัฒนาของทารก
  • Hydroquinone – ใช้ในครีมปรับผิวขาว แต่ไม่เหมาะสำหรับคนท้อง
  • Salicylic Acid ความเข้มข้นสูง – อาจซึมเข้าสู่ร่างกาย
  • พาราเบนและฟอร์มาลดีไฮด์บางชนิด – มีรายงานการระคายเคือง
  • น้ำหอมสังเคราะห์กลิ่นแรง – เพิ่มโอกาสแพ้หรือเวียนหัว

หากไม่แน่ใจ ควรทดสอบที่ท้องแขนเล็กน้อย (patch test) และปรึกษาแพทย์ก่อนใช้

คำถามที่พบบ่อย

ครีมคนท้องเริ่มใช้ได้ตั้งแต่กี่เดือน?

สามารถเริ่มใช้ได้ตั้งแต่ไตรมาสแรก (เดือน 1–3) เพื่อเตรียมผิวและป้องกันรอยแตกลายตั้งแต่เนิ่นๆ

ครีมลดรอยแตกลายใช้ได้หลังคลอดหรือไม่?

ใช้ได้และควรใช้ต่อเนื่อง เพราะช่วยฟื้นฟูผิว ลดรอยที่เกิดขึ้นแล้ว และทำให้ผิวกลับมาแข็งแรงเร็วขึ้น

ครีมทั่วไปใช้แทนครีมคนท้องได้หรือเปล่า?

ไม่แนะนำ เพราะครีมทั่วไปอาจมีส่วนผสมที่ไม่ปลอดภัย เช่น เรตินอยด์หรือสารไวท์เทนนิ่งเข้มข้น ซึ่งอาจมีผลต่อทารก

ควรทาครีมบ่อยแค่ไหน?

ควรทาวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ หากผิวแห้งมากสามารถเพิ่มรอบทาระหว่างวันได้

เลือกครีมคนท้องจากอะไรดีที่สุด?

เลือกตามสภาพผิว กลิ่นที่ชอบหรือรับได้ และงบประมาณ โดยเน้นแบรนด์ที่มีรีวิวเชื่อถือได้และผ่านการทดสอบทางการแพทย์

เกี่ยวกับผู้เขียน

เลื่อนไปด้านบน