การตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายของคุณแม่เปลี่ยนแปลงอย่างมาก ทั้งผิวที่ตึง คัน และโอกาสเกิดรอยแตกลาย การเลือก ครีมคนท้อง หรือ ครีมที่คนท้องใช้ได้ จึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อบำรุงผิวให้แข็งแรงและลดปัญหาที่ตามมา บทความนี้ได้รวบรวม 10 ครีมยอดนิยมแห่งปี 2025 ที่ผ่านการยอมรับทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยเน้นความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และความคุ้มค่า พร้อมคำแนะนำช่วงเวลาที่เหมาะสมในการใช้ เพื่อให้คุณแม่มั่นใจและเลือกได้ตรงกับความต้องการ
- 1. Mustela Maternité Stretch Marks Cream
- 2. Palmer’s Cocoa Butter Massage Lotion for Stretch Marks
- 3. Burt’s Bees Mama Belly Butter
- 4. Mederma Stretch Marks Therapy
- 5. Mama Mio Tummy Rub Butter
- 6. Weleda Stretch Mark Body Butter
- 7. CeraVe Moisturizing Cream
- 8. La Roche-Posay Anthelios Mineral SPF
- 9. Hada Labo Hydrating Lotion
- 10. Eucerin pH5 Light Gel-Cream
- วิธีเลือกครีมคนท้องให้เหมาะกับสภาพผิว
- ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการใช้ครีมคนท้อง
- ข้อควรหลีกเลี่ยงของครีมคนท้อง
- คำถามที่พบบ่อย
1. Mustela Maternité Stretch Marks Cream
Mustela เป็นแบรนด์จากฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงด้านผลิตภัณฑ์แม่และเด็กมายาวนาน สูตรนี้ได้รับความนิยมในปี 2025 เพราะเน้นความปลอดภัยสูงและการป้องกันรอยแตกลายตั้งแต่ระยะแรกของการตั้งครรภ์
- ส่วนผสมเด่น: อะโวคาโด เปปไทด์, มาราคูจาออยล์, เชียบัตเตอร์
- กลิ่น: มีทั้งสูตรหอมอ่อนและสูตรไร้กลิ่น
- เนื้อสัมผัส: ครีมบางเบา ซึมไว
- ข้อดี: สูตรเฉพาะคนท้อง ปลอดภัย ได้รับการยอมรับในคลินิกและโรงพยาบาล
- ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าโลชั่นทั่วไป ต้องใช้ต่อเนื่อง
- ราคา: ประมาณ 785 บาท / 150 ml
- เหมาะกับ: คุณแม่ที่ผิวตึงคันง่าย ต้องการป้องกันรอยตั้งแต่ไตรมาสแรก
- ช่วงเวลาที่แนะนำ: เริ่มใช้ได้ตั้งแต่เดือนแรกของการตั้งครรภ์ ใช้ต่อเนื่องจนหลังคลอด
- เวลาที่ควรทา: เช้าและก่อนนอน หลังอาบน้ำ
- Mustela Maternité Stretch Marks Cream หาซื้อได้ที่ : Watsons, Central Online, Lazada, Shopee
สรุปครีม Mustela Maternité Stretch Marks Cream เหมาะกับคุณแม่ที่ต้องการครีมปลอดภัย มาตรฐานสูง ใช้ได้ตั้งแต่ตั้งครรภ์ช่วงแรกจนถึงหลังคลอด คุ้มค่าสำหรับการลงทุนเพื่อป้องกันรอยแตกลาย
2. Palmer’s Cocoa Butter Massage Lotion for Stretch Marks
Palmer’s คือโลชั่นโกโก้บัตเตอร์ในตำนานที่คุณแม่หลายรุ่นไว้วางใจ ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายและคุณภาพที่พิสูจน์ได้ ทำให้ยังคงเป็นหนึ่งในครีมคนท้องยอดนิยมในปี 2025
- ส่วนผสมเด่น: โกโก้บัตเตอร์, เชียบัตเตอร์, วิตามินอี, คอลลาเจน, อีลาสติน
- กลิ่น: โกโก้หอมหวาน
- เนื้อสัมผัส: โลชั่นลื่น ซึมง่าย
- ข้อดี: คุ้มราคา หาซื้อง่าย ผิวนุ่มชุ่มชื้นยาวนาน
- ข้อเสีย: กลิ่นโกโก้อาจแรงเกินไปสำหรับบางคน
- ราคา: 300–500 บาท / 250 ml
- เหมาะกับ: คุณแม่ผิวแห้งมาก ต้องการความชุ่มชื้นตลอดวัน
- ช่วงเวลาที่แนะนำ: เหมาะกับไตรมาส 2–3 และต่อเนื่องหลังคลอด
- เวลาที่ควรทา: หลังอาบน้ำ เช้าและเย็น
- Palmer’s Cocoa Butter Massage Lotion for Stretch Marks หาซื้อได้ที่ : Boots, Watsons, Tops, Lazada, Shopee
สรุปครีม Palmer’s Cocoa Butter เหมาะกับคุณแม่ที่มองหาครีมคุ้มค่า หาซื้อง่าย ใช้ต่อเนื่องแล้วผิวนุ่มชุ่มชื้น แม้กลิ่นโกโก้จะเข้มข้น แต่ยังคงเป็นที่นิยมและเชื่อถือได้
3. Burt’s Bees Mama Belly Butter
Burt’s Bees เป็นแบรนด์จากสหรัฐอเมริกาที่เน้นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ รุ่นนี้เป็นบัตเตอร์เข้มข้นที่คุณแม่ผิวแพ้ง่ายนิยมใช้ เพราะไม่มีน้ำหอมและอ่อนโยนต่อผิว
- ส่วนผสมเด่น: เชียบัตเตอร์, โกโก้บัตเตอร์, โจโจบาออยล์
- กลิ่น: ไร้กลิ่น
- เนื้อสัมผัส: เข้มข้นแบบบัตเตอร์
- ข้อดี: อ่อนโยน ปลอดภัย 99% จากธรรมชาติ
- ข้อเสีย: หาซื้อยากในไทย ต้องสั่งออนไลน์
- ราคา: ประมาณ 610 บาท
- เหมาะกับ: คุณแม่ที่แพ้ง่ายหรือไม่ชอบกลิ่นน้ำหอม
- ช่วงเวลาที่แนะนำ: เหมาะตั้งแต่ไตรมาสแรกจนหลังคลอด
- เวลาที่ควรทา: ก่อนนอนเป็นหลักเพื่อบำรุงเข้มข้น
- Burt’s Bees Mama Belly Butter หาซื้อได้ที่ : iHerb, Lazada, Shopee, ตัวแทนนำเข้าออนไลน์
สรุปครีม Burt’s Bees Mama Belly Butter เหมาะกับคุณแม่ที่ต้องการผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก ปลอดภัยสูง แม้หาซื้อยาก แต่ตอบโจทย์คนที่ใส่ใจสุขภาพผิวและส่วนผสมธรรมชาติ
4. Mederma Stretch Marks Therapy
Mederma เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านการดูแลรอยแตกลายโดยเฉพาะ รุ่น Stretch Marks Therapy จึงได้รับความนิยมสูงในหมู่คุณแม่ที่กังวลรอยแตกลายทั้งระหว่างตั้งครรภ์และหลังคลอด
- ส่วนผสมเด่น: ไฮยาลูรอนิก, เซนเทลล่า, สารสกัดพืช
- กลิ่น: อ่อนมาก
- เนื้อสัมผัส: ครีมเนียน ซึมไว
- ข้อดี: มีงานวิจัยรองรับ ใช้แล้วผิวยืดหยุ่นดีขึ้น ลดรอยใหม่ได้ดี
- ข้อเสีย: ต้องใช้นานหลายสัปดาห์จึงเห็นผลชัดเจน
- ราคา: ประมาณ 1,200 บาท
- เหมาะกับ: คุณแม่ที่มีรอยแตกลายใหม่หรือผิวแห้งตึงมาก
- ช่วงเวลาที่แนะนำ: เริ่มใช้ได้ตั้งแต่ไตรมาส 2 จนถึงหลังคลอด
- เวลาที่ควรทา: เช้าและก่อนนอน
- Mederma Stretch Marks Therapy หาซื้อได้ที่ : Boots, Watsons, Lazada, Shopee
สรุปครีม Mederma Stretch Marks Therapy เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ต้องการครีมลดรอยแตกลายโดยเฉพาะ แม้ต้องใช้ต่อเนื่องนาน แต่เป็นแบรนด์ที่มีข้อมูลวิจัยรองรับและเชื่อถือได้
5. Mama Mio Tummy Rub Butter
Mama Mio เป็นแบรนด์พรีเมียมจากอังกฤษที่พัฒนาสูตรเฉพาะสำหรับคนท้อง รุ่น Tummy Rub Butter ได้รับความนิยมเพราะให้ความรู้สึกหรูหราและมีส่วนผสมจากน้ำมันธรรมชาติที่บำรุงลึก
- ส่วนผสมเด่น: Shea Butter, Argan Oil, Avocado Oil
- กลิ่น: หอมอ่อนแนวสมุนไพร
- เนื้อสัมผัส: เข้มข้นแบบบัตเตอร์
- ข้อดี: ช่วยผ่อนคลายเหมือนได้สปา บำรุงเข้มข้น
- ข้อเสีย: ราคาสูงเมื่อเทียบกับแบรนด์ทั่วไป
- ราคา: ประมาณ 1,100 บาท
- เหมาะกับ: คุณแม่ที่ต้องการครีมระดับพรีเมียมเพื่อการบำรุงผิว
- ช่วงเวลาที่แนะนำ: เหมาะกับไตรมาส 2–3 และใช้ต่อเนื่องหลังคลอด
- เวลาที่ควรทา: ก่อนนอน เพื่อให้บำรุงลึกและผ่อนคลาย
- Mama Mio Tummy Rub Butter หาซื้อได้ที่ : Sephora, Central Online, Lazada
สรุปครีม Mama Mio Tummy Rub Butter เหมาะกับคุณแม่ที่มองหาความหรูหราและผลลัพธ์ที่จับต้องได้ แม้ราคาจะสูง แต่ถือว่าคุ้มสำหรับการดูแลผิวช่วงตั้งครรภ์
6. Weleda Stretch Mark Body Butter
Weleda เป็นแบรนด์จากยุโรปที่มีชื่อเสียงด้านผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก รุ่น Stretch Mark Body Butter จึงตอบโจทย์คุณแม่ที่ใส่ใจธรรมชาติและสุขภาพผิว
- ส่วนผสมเด่น: เชียบัตเตอร์, โกโก้บัตเตอร์, อัลมอนด์ออยล์
- กลิ่น: หอมอ่อนธรรมชาติ
- เนื้อสัมผัส: เข้มข้นแบบบัตเตอร์
- ข้อดี: ส่วนผสม organic ปลอดภัยและอ่อนโยน
- ข้อเสีย: ราคาสูงเนื่องจากเป็นสินค้านำเข้า
- ราคา: 1,200–1,700 บาท
- เหมาะกับ: คุณแม่ที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์สายกรีน
- ช่วงเวลาที่แนะนำ: ใช้ได้ทุกไตรมาสและหลังคลอด
- เวลาที่ควรทา: เช้าและก่อนนอน หลังอาบน้ำ
- Weleda Stretch Mark Body Butter หาซื้อได้ที่ : iHerb, Lazada, Shopee
สรุปครีม Weleda Stretch Mark Body Butter เหมาะกับคุณแม่ที่ต้องการครีมออร์แกนิกแท้ ปลอดภัยสูง แม้ราคาค่อนข้างสูง แต่เป็นตัวเลือกที่มั่นใจได้ในคุณภาพ
7. CeraVe Moisturizing Cream
CeraVe เป็นครีมเวชสำอางที่พัฒนาร่วมกับแพทย์ผิวหนัง จุดเด่นคือการฟื้นฟูเกราะป้องกันผิวและเพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ผิวแห้งหรือแพ้ง่าย
- ส่วนผสมเด่น: เซราไมด์, ไฮยาลูรอนิก, วิตามินบี5
- กลิ่น: ไร้กลิ่น
- เนื้อสัมผัส: ครีมเข้มข้น
- ข้อดี: ปลอดภัย ไม่ก่อสิว ใช้ได้กับผิวแพ้ง่าย
- ข้อเสีย: เนื้อค่อนข้างหนา อาจไม่เหมาะกับอากาศร้อน
- ราคา: ประมาณ 600 บาท
- เหมาะกับ: คุณแม่ที่มีผิวแห้งหรือแพ้ง่าย ต้องการครีมเวชสำอางที่เชื่อถือได้
- ช่วงเวลาที่แนะนำ: ใช้ได้ทุกช่วงการตั้งครรภ์และหลังคลอด
- เวลาที่ควรทา: หลังอาบน้ำ เช้าและเย็น
- CeraVe Moisturizing Cream หาซื้อได้ที่ : Watsons, Boots, Lazada, Shopee
สรุปครีม CeraVe Moisturizing Cream เหมาะกับคุณแม่ที่ต้องการครีมเวชสำอางที่ปลอดภัยและฟื้นฟูผิวได้จริง ใช้ได้ยาวนานทั้งก่อนและหลังคลอด
8. La Roche-Posay Anthelios Mineral SPF
La Roche-Posay เป็นแบรนด์เวชสำอางจากฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงด้านความอ่อนโยน รุ่น Anthelios Mineral SPF เป็นกันแดดที่ออกแบบมาเพื่อคนท้องและผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ
- ส่วนผสมเด่น: Zinc Oxide, Titanium Dioxide
- กลิ่น: ไร้กลิ่น
- เนื้อสัมผัส: ครีมเจลบางเบา
- ข้อดี: ปลอดภัย ป้องกันรังสี UVA/UVB ได้ดี
- ข้อเสีย: ราคาสูงกว่ากันแดดทั่วไป
- ราคา: ประมาณ 800 บาท
- เหมาะกับ: คุณแม่ที่ต้องออกแดดบ่อยหรือทำงานกลางแจ้ง
- ช่วงเวลาที่แนะนำ: ใช้ได้ทุกไตรมาสและหลังคลอด
- เวลาที่ควรทา: ทุกเช้าก่อนออกแดด และทาซ้ำทุก 2–3 ชั่วโมงเมื่ออยู่กลางแจ้ง
- La Roche-Posay Anthelios Mineral SPF หาซื้อได้ที่ : Watsons, Boots, Central Online, Lazada
สรุปครีม La Roche-Posay Anthelios Mineral SPF เป็นกันแดดที่ปลอดภัยสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เหมาะสำหรับการใช้งานทุกวันและป้องกันผิวจากแดดแรง
9. Hada Labo Hydrating Lotion
Hada Labo เป็นโลชั่นน้ำตบจากญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมสูง ช่วยเติมน้ำให้ผิวและซึมซาบไว เหมาะกับคุณแม่ที่ไม่ต้องการครีมหนัก
- ส่วนผสมเด่น: ไฮยาลูรอนิกหลายโมเลกุล
- กลิ่น: ไร้กลิ่น
- เนื้อสัมผัส: น้ำตบใส
- ข้อดี: ซึมไว ใช้ซ้อนเลเยอร์กับครีมอื่นได้
- ข้อเสีย: ไม่ได้ช่วยลดรอยแตกลายโดยตรง
- ราคา: ประมาณ 350 บาท
- เหมาะกับ: คุณแม่ผิวมันหรือผิวผสมที่อยากได้ความชุ่มชื้น
- ช่วงเวลาที่แนะนำ: ใช้ได้ทุกไตรมาสและหลังคลอด
- เวลาที่ควรทา: เช้าและเย็น ก่อนลงครีมหรือบัตเตอร์
- Hada Labo Hydrating Lotion หาซื้อได้ที่ : Watsons, Tops, Big C, Lazada, Shopee
สรุปครีม Hada Labo Hydrating Lotion เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ชอบเนื้อสัมผัสเบาสบาย เติมน้ำให้ผิวโดยไม่รู้สึกเหนอะหนะ ใช้ได้ยาวนานแม้หลังคลอด
10. Eucerin pH5 Light Gel-Cream
Eucerin เป็นแบรนด์เวชสำอางจากเยอรมนีที่มีชื่อเสียงด้านความอ่อนโยน รุ่น pH5 Light Gel-Cream ออกแบบมาเพื่อผิวบอบบางและสภาพอากาศร้อนโดยเฉพาะ
- ส่วนผสมเด่น: เดกซ์แพนทีนอล, pH Balance
- กลิ่น: หอมอ่อนมาก
- เนื้อสัมผัส: เจลครีมบางเบา
- ข้อดี: ซึมไว ไม่เหนอะหนะ ใช้สบายในอากาศร้อน
- ข้อเสีย: ไม่ได้ลดรอยแตกลายโดยตรง
- ราคา: ประมาณ 837 บาท / 350 ml
- เหมาะกับ: คุณแม่ที่ไม่ชอบครีมหนักและอยากได้ความเบาสบาย
- ช่วงเวลาที่แนะนำ: ใช้ได้ทุกไตรมาสและหลังคลอด
- เวลาที่ควรทา: หลังอาบน้ำ เช้าและเย็น
- Eucerin pH5 Light Gel-Cream หาซื้อได้ที่ : Boots, Watsons, Central Online, Lazada, Shopee
สรุปครีม Eucerin pH5 Light Gel-Cream เหมาะกับคุณแม่ที่ชอบครีมเบาสบาย ไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะกับสภาพอากาศของไทยและใช้ได้ต่อเนื่องหลังคลอด
วิธีเลือกครีมคนท้องให้เหมาะกับสภาพผิว
คุณแม่แต่ละคนมีสภาพผิวที่แตกต่างกัน การเลือกครีมคนท้องให้เหมาะสมจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ชัดเจนและลดความเสี่ยงจากการระคายเคือง
- ผิวแห้งมาก: เลือกครีมบัตเตอร์เข้มข้น เช่น Palmer’s, Burt’s Bees, Mama Mio
- ผิวมันหรือผิวผสม: ใช้โลชั่นเนื้อเบาอย่าง Hada Labo Hydrating Lotion หรือ Eucerin Light Gel-Cream
- ผิวแพ้ง่าย: เลือกสูตรอ่อนโยน ไร้น้ำหอม เช่น CeraVe, Mustela สูตร fragrance-free
- ต้องออกแดดบ่อย: ใช้กันแดดแร่ เช่น La Roche-Posay Anthelios Mineral SPF
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการใช้ครีมคนท้อง
การทาครีมอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่เหมาะสมจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด
- ไตรมาส 1 (1–3 เดือน): เริ่มบำรุงตั้งแต่แรกเพื่อเตรียมผิวและลดความเสี่ยงของรอยแตกลายในอนาคต
- ไตรมาส 2–3 (4–9 เดือน): เน้นครีมเข้มข้นที่ลดอาการคันและเพิ่มความยืดหยุ่น เพราะท้องจะเริ่มโตเร็ว
- หลังคลอด: ใช้ต่อเนื่องเพื่อฟื้นฟูเกราะผิว ลดรอยแตกลาย และปรับสภาพผิวให้กลับมาแข็งแรง
ควรทาครีมวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน หลังอาบน้ำ เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นได้ยาวนาน
ข้อควรหลีกเลี่ยงของครีมคนท้อง
แม้ครีมหลายตัวจะระบุว่าปลอดภัย แต่คุณแม่ควรตรวจสอบส่วนผสมทุกครั้ง โดยเลี่ยงสารดังนี้
- Retinoids (Vitamin A derivatives) – มีผลต่อการพัฒนาของทารก
- Hydroquinone – ใช้ในครีมปรับผิวขาว แต่ไม่เหมาะสำหรับคนท้อง
- Salicylic Acid ความเข้มข้นสูง – อาจซึมเข้าสู่ร่างกาย
- พาราเบนและฟอร์มาลดีไฮด์บางชนิด – มีรายงานการระคายเคือง
- น้ำหอมสังเคราะห์กลิ่นแรง – เพิ่มโอกาสแพ้หรือเวียนหัว
หากไม่แน่ใจ ควรทดสอบที่ท้องแขนเล็กน้อย (patch test) และปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
คำถามที่พบบ่อย
ครีมคนท้องเริ่มใช้ได้ตั้งแต่กี่เดือน?
สามารถเริ่มใช้ได้ตั้งแต่ไตรมาสแรก (เดือน 1–3) เพื่อเตรียมผิวและป้องกันรอยแตกลายตั้งแต่เนิ่นๆ
ครีมลดรอยแตกลายใช้ได้หลังคลอดหรือไม่?
ใช้ได้และควรใช้ต่อเนื่อง เพราะช่วยฟื้นฟูผิว ลดรอยที่เกิดขึ้นแล้ว และทำให้ผิวกลับมาแข็งแรงเร็วขึ้น
ครีมทั่วไปใช้แทนครีมคนท้องได้หรือเปล่า?
ไม่แนะนำ เพราะครีมทั่วไปอาจมีส่วนผสมที่ไม่ปลอดภัย เช่น เรตินอยด์หรือสารไวท์เทนนิ่งเข้มข้น ซึ่งอาจมีผลต่อทารก
ควรทาครีมบ่อยแค่ไหน?
ควรทาวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ หากผิวแห้งมากสามารถเพิ่มรอบทาระหว่างวันได้
เลือกครีมคนท้องจากอะไรดีที่สุด?
เลือกตามสภาพผิว กลิ่นที่ชอบหรือรับได้ และงบประมาณ โดยเน้นแบรนด์ที่มีรีวิวเชื่อถือได้และผ่านการทดสอบทางการแพทย์
















